คุณถิรายุส์ ทรงเดชะ

เกี่ยวกับ

คุณถิรายุส์ ทรงเดชะ

ทนายความอาวุโส

คุณถิรายุส์ เป็นทนายความอาวุโสของสำนักงาน ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 13 ปีในการให้คำปรึกษาแก่ลูกความเกี่ยวกับการควบรวมกิจการ ตราสารทุนและตราสารหนี้ การกำกับดูแลกิจการ กิจการและการพาณิชย์ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และด้านภาษีอากร

ก่อนหน้านี้คุณถิรายุส์ได้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาทางกฎหมาย ที่ซีเอ็นเอช อินดัสเทรียล ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และญี่ปุ่น เป็นทนายความในด้านกิจการและการพาณิชย์ของบริษัท ทีเอ็มไอ แอสโซซิเอทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และเป็นทนายความในด้านการควบรวมกิจการ และการกำกับดูแลกิจการของสำนักกฎหมายวีระวงค์-ชินวัฒน์ และพาร์ทเนอร์ส อีกทั้งยังเป็นทนายความในด้านภาษีอากรของสำนักกฎหมายสากล สยามพรีเมียร์ นอกจากนี้คุณถิรายุส์ได้เคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยวิจัยท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

ตลาดทุนและหลักทรัพย์

การควบรวมกิจการ

กฎหมายองกค์กรธุรกิจ

บทความโดยคุณถิรายุส์

ทุกๆบทความได้รับการวิจัยอย่างพิถีพิถันจากความเชี่ยวชาญ ความมุ่งมั่น และวิสัยทัศน์ของทีมงานของเรา ซึ่งสะท้อนถึงความรู้ความเข้าใจที่เป็นแรงขับเคลื่อนในทุกสิ่งที่เราทำ

Education

  • นิติศาสตร์มหาบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลั
  • นิติศาสตร์บัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  •  

Experience

ใบอนุญาต

  • ใบอนุญาตที่ปรึกษาทางการเงิน จากสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (FA License)

กิจกรรม

  • หัวหน้าทีมตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันว่าความกฎหมายระหว่างประเทศ Philip C. Jessup International Law Moot Court 2556 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา (2556)
  • หัวหน้าทีมตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประชุม AC21 Student World Forum ครั้งที่ 5 (2556)
    เรื่อง ‘Sustainable Mobility and the City of the Future’ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน (2556)
  • ตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประชุมวิชาการด้านกฎหมายและเศรษฐกิจประจำปี 2553 เรื่อง ‘Welcome the New Era of Asian Integrity’ ซึ่งจัดขึ้นโดย สมาคมนิสิตนักศึกษากฎหมายแห่งเอเซีย ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี (พ.ศ. 2553)

ประสบการณ์การทำหน้าที่ล่าสุด

คุณถิรายุส์ เป็นทนายความอาวุโสของสำนักงาน ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 12 ปีในการให้คำปรึกษาแก่ลูกความเกี่ยวกับการควบรวมกิจการ ตราสารทุนและตราสารหนี้ การกำกับดูแลกิจการ กิจการและการพาณิชย์ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และด้านภาษีอากร

ประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาทางธุรกรรม

ด้านตลาดทุนและหลักทรัพย์ (Capital Markets and Securities)

  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร โดยให้คำปรึกษาในการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์รวมไปถึงการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) วันแรก ราคาเปิดอยู่ที่ 50 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท หรือ 43.3% จากราคา IPO ที่หุ้นละ 15 บาท คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,800 ล้านบาท (ประมาณ 137 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผนังคอนกรีตสำเร็จรูป และส่วนประกอบอาคารที่ผลิตจากคอนกรีตสำเร็จรูป โดยให้คำปรึกษาในการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์รวมไปถึงการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการเสนอขายอยู่ที่ 95 ล้านบาท เข้าซื้อขายด้วยราคา IPO ที่ 6 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO ประมาณ 900 ล้านบาท (ประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท เพื่อนแท้ แคปปิตอล จำกัด บริษัทโฮลดิ้งซึ่งถือหุ้นร้อยละ 100 ในบริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ หรือ Pico-Finance โดยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเกี่ยวกับการออกและเสนอขาย หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 ให้กับผู้ลงทุนสถาบันและ / หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทยมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 180 ล้านบาท (ประมาณ 82 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างด้านงานวิศวกรรมโยธา และธรณีเทคนิคที่ต้องอาศัยความชำนาญและเทคโนโลยีระดับสูง โดยเฉพาะงานก่อสร้างอุโมงค์ งานระเบิดหิน งานขุดเจาะโดยไม่ใช้ระเบิด งานพัฒนาเหมือง งานเจาะสำรวจ งานคอนกรีตโครงสร้าง งานวิศวกรรมโยธาทั่วไป และงานด้านธรณีวิทยา ในการเข้าทำธุรกรรมเกี่ยวกับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2567 ให้กับผู้ลงทุนสถาบันและ / หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทย มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 400 ล้านบาท (ประมาณ 83 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท เพื่อนแท้ แคปปิตอล จำกัด บริษัทโฮลดิ้งซึ่งถือหุ้นร้อยละ 100 ในบริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ หรือ Pico-Finance โดยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเกี่ยวกับการออกและเสนอขาย หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2567 ชุดที่ 1 และชุดที่ 2 ให้กับผู้ลงทุนสถาบันและ / หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทยมูลค่าทั้งสิ้น 130 ล้านบาท (ประมาณ 56 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท เพื่อนแท้ แคปปิตอล จำกัด บริษัทโฮลดิ้งซึ่งถือหุ้นร้อยละ 100 ในบริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ หรือ Pico-Finance โดยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเกี่ยวกับการออกและเสนอขาย หุ้นกู้ครั้งที่ 2/2566 ให้กับผู้ลงทุนสถาบันและ / หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทยมูลค่าทั้งสิ้น 150 ล้านบาท (ประมาณ 206 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างด้านงานวิศวกรรมโยธา และธรณีเทคนิคที่ต้องอาศัยความชำนาญและเทคโนโลยีระดับสูง โดยเฉพาะงานก่อสร้างอุโมงค์ งานระเบิดหิน งานขุดเจาะโดยไม่ใช้ระเบิด งานพัฒนาเหมือง งานเจาะสำรวจ งานคอนกรีตโครงสร้าง งานวิศวกรรมโยธาทั่วไป และงานด้านธรณีวิทยา ในการเข้าทำธุรกรรมเกี่ยวกับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2566 ให้กับผู้ลงทุนสถาบันและ / หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทย มูลค่าทั้งสิ้น 700 ล้านบาท (ประมาณ 37 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท เพื่อนแท้ แคปปิตอล จำกัด บริษัทโฮลดิ้งซึ่งถือหุ้นร้อยละ 100 ในบริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ หรือ Pico-Finance โดยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเกี่ยวกับการออกและเสนอขาย หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2566 ให้กับผู้ลงทุนสถาบันและ / หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทยมูลค่าทั้งสิ้น 100 ล้านบาท (ประมาณ 950 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงพลังงานหมุนเวียน และให้บริการด้านวิศวกรรม โดยกลุ่มบริษัทฯ ประกอบธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ในการเข้าทำธุรกรรมเกี่ยวกับการออกและเสนอขายหุ้นกู้
    ครั้งที่ 1/2565 ให้กับผู้ลงทุนสถาบันและ / หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทย มูลค่าทั้งสิ้น 500 ล้านบาท (ประมาณ 14 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างด้านงานวิศวกรรมโยธา และธรณีเทคนิคที่ต้องอาศัยความชำนาญและเทคโนโลยีระดับสูง โดยเฉพาะงานก่อสร้างอุโมงค์ งานระเบิดหิน งานขุดเจาะโดยไม่ใช้ระเบิด งานพัฒนาเหมือง งานเจาะสำรวจ งานคอนกรีตโครงสร้าง งานวิศวกรรมโยธาทั่วไป และงานด้านธรณีวิทยา ในการเข้าทำธุรกรรมเกี่ยวกับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2565 ให้กับผู้ลงทุนสถาบันและ / หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทย มูลค่าทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท (ประมาณ 28 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัทที่เป็นผู้ผลิตยางพาราคุณภาพชั้นนำของประเทศไทย โดยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2565 ให้กับผู้ลงทุนสถาบันและ / หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทย มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท (ประมาณ 83 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) โดยให้บริการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายเกี่ยวกับกฎระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทย หลักทรัพย์และการกำกับดูแลตามกฎระเบียบที่เกี่ยวกับการออกสินทรัพย์ดิจิทัล
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่นกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ผู้ออกหลักทรัพย์) ในการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ข้อตกลงดังกล่าวมีมูลค่า 975 ล้านบาท (ประมาณ 31 ล้านเหรียญสหรัฐ) บริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทอาหารชั้นนำ และมีชื่อเสียงในประเทศไทย ซึ่งมีธุรกิจหลัก ๆ ครอบคลุมทั้งอาหาร และร้านอาหารแฟรนไชส์, อาหารสำหรับการจัดเลี้ยง, อาหารสำหรับการจัดส่ง, การจัดการร้านอาหาร,
    ที่ปรึกษาร้านอาหาร และธุรกิจค้าปลีก โดยการซื้อขาย IPO เริ่มในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562

ด้านการควบรวมกิจการ (Mergers & Acquisitions)

  • ให้คำปรึกษาแก่ โรงแรม พูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ซึ่งเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดขอนแก่น และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยให้คำปรึกษาแก่ผู้ถือหุ้นเดิมในการจำหน่ายหุ้นสามัญทั้งหมดของ บริษัท โรงแรมราชาออคิด จำกัด จำนวน 400,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท ให้แก่
    บริษัท น้ำตาลราชบุรี จำกัด และบริษัท ราชบุรีเอทานอล จำกัด มูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 1,200 ล้านบาท (ประมาณ 6 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท ไทยอีวี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์รายแรกในประเทศไทย โดยครอบคลุมถึงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้าทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก รถบรรทุกผู้โดยสารไฟฟ้า จนถึงเครื่องชาร์ตไฟฟ้า ในระบบ AC และ DC โดยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนร่วมกับ Gentari Green Mobility Sdn. Bhd. ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศไทยชื่อ บริษัท เก็นทาริ โมบิลิตี้ จำกัด (Gentari Mobility Co. Ltd.) รวมไปถึงการจัดเตรียมสัญญากิจการค้าร่วมสำหรับการลงทุนในบริษัทร่วมทุน ซึ่งบริษัทร่วมทุนมีทุนจดทะเบียนจำนวน 50,000,000 บาท ประกอบด้วยหุ้นจำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 มูลค่าธุรกรรมรวมทั้งสิ้น 50,000,000 บาท (ประมาณ 1,365,393 เหรียญสหรัฐ)
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท ซุปเปอร์ริช เคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) จำกัด ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อันดับหนึ่งของประเทศไทย โดยให้คำปรึกษาเกี่ยวการเข้าทำธุรกรรมร่วมทุนระหว่างบริษัท และบริษัท ซุปเปอร์ เทอร์เทิล จำกัด (มหาชน) Limited การทำธุรกรรมดังกล่าวรวมถึงการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ชื่อว่า บริษัท ซุปเปอร์ริช เทอร์เทิล เอ็กซ์เชนจ์ จำกัด ซึ่งบริษัทร่วมทุนมีทุนจดทะเบียนจำนวน 250 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยหุ้นจำนวน 250,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท มูลค่าของธุรกรรมอยู่ที่ 250 ล้านบาท (ประมาณ 77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด (“UPM”) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย UPM ดำเนินธุรกิจในฐานะผู้บริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์และมีความประสงค์ที่จะขยายธุรกิจและส่วนแบ่งตลาดผ่านการเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวข้องกับการซื้อหุ้นใน บริษัท โปรเจคส์เอเชีย จำกัด (“ProjectsAsia”) โดยการซื้อหุ้นสามัญทั้งหมด 5,000 หุ้นจากผู้ถือหุ้นของ ProjectsAsia, บริษัท ฤาสาย คอนซัลแท้นท์ จำกัด และ บริษัทเคมบริดจ์ ทิวดอร์ จำกัด มูลค่าการซื้อขาย 220 ล้านบาท (ประมาณ 47 ล้านเหรียญสหรัฐ) หลังจากการซื้อหุ้นทั้งหมดใน ProjectsAsia แล้ว UPM จะเป็นเจ้าของส่วนแบ่งทั้งหมดใน ProjectsAsia
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท ที เอ็น กรุ๊ป คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) (“TN Group”)ให้บริการโซลูชั่นชั้นนำของประเทศไทยด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะและแพลตฟอร์มประหยัดพลังงานที่ดีที่สุดในโลก ผลิตและนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม โดยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ บริษัท เคเจทีเอ็น เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (“KJTN”) ซึ่งร่วมทุนระหว่าง TN Group และ KJ Technical Services Sdn. Bhd. ประเทศมาเลเซีย เป้าหมายหลักของ KJTN คือการทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการระบบจัดการพลังงาน ตลอดจนระบบบริหารจัดการทรัพยากรภายในอาคารอย่างมี ประสิทธิภาพ ในระดับภูมิภาคสำหรับภาคอุตสาหกรรม โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท
    11 ล้านบาท
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัทพลังงานรายใหญ่ที่สุดของไทยในธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน และการปรับโครงสร้างมูลค่า 120 พันล้านบาท บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ปรับโครงสร้างการตลาดน้ำมันและธุรกิจค้าปลีก เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) รวมสถานีบริการมากกว่า 1,400 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 40 ของตลาดปั๊มน้ำมันในประเทศไทย โดยข้อตกลงดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการโอนทรัพย์สิน การดำเนินการใบอนุญาตทรัพย์สินทางปัญญา (IP) และสัญญาในเขตอำนาจศาลมากกว่า 20 แห่งในปี 2561
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ จำกัด ที่เกี่ยวข้องกับการร่วมลงทุนผ่าน บริษัท ศิริดำรงธรรม จำกัด และ บริษัท ภักดีวัฒนา จำกัด กับ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ในธุรกิจโทรทัศน์ดิจิทัลวิทยุกระจายเสียง และการเผยแพร่ภาพออนไลน์ ได้แก่ ช่องทีวีดิจิตอล GMM25, EFM 104.5Mhz,Green Wave 106.5Mhz, Chill Online และ GMM TV โดยการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน 50% ใน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนลเทรดดิ้ง จำกัด มูลค่า 1 พันล้านบาท (ประมาณ 32 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยธุรกรรมได้เสร็จสิ้นในเดือนธันวาคม 2560
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท ไทย เบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) (ไทยเบฟเวอเรจ) หนึ่งในผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของเอเชีย โดยการซื้อกิจการภายใน 6 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย Internal Beverage Holdings (Singapore) Pte. Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้ถือหุ้นร้อยละ 75 ใน Myanmar Distillery Co., Ltd. (MDC) และ Myanmar Supply Chain and Marketing Services Co., Ltd. (MSC) ร่วมกับ International Beverages Trading Company Limited (เรียกว่า เอ็มดีซีกรุ๊ป). เอ็มดีซีกรุ๊ปเป็นผู้ผลิต, นักการตลาด และผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มกลั่นชั้นนำของเมียนมาร์ ซึ่งรวมถึง Grand Royal วิสกี้ชั้นนำของประเทศและแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย การซื้อกิจการดังกล่าวทำให้ไทยเบฟเวอเรจสามารถเข้าถึงตลาด และเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่กำลังขยายตัวได้ โดยธุรกรรมได้เสร็จสิ้นในวันที่ 12 ตุลาคม 2560
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ในการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดใน บริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการ The Park 24 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมหรูในย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ จำนวน 4 พันล้านบาท ในขณะเดียวกัน ORI ได้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่มูลค่า
    1 พันล้านบาท ภายใต้การจำกัดให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของ Proud Residence ในการเข้าทำธุรกรรมนี้ ORI จะสามารถเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจ และความสามารถในการแข่งขันผ่านการขยายไปสู่อุตสาหกรรมคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ และการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า โดยธุรกรรมได้เสร็จสิ้นในวันที่ 2 ตุลาคม 2560

ด้านกฎหมายองค์กรธุรกิจ (Corporate and Commercial)

  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท พรีโม อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด โดยให้บริการด้านกฎหมายเกี่ยวกับการร่างสัญญาบริการให้คำปรึกษาด้านการประกันภัย สัญญาแต่งตั้งตัวแทนนายหน้า และสัญญาพนักงานขายสินค้าและบริการทางโทรศัพท์
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผนังคอนกรีตสำเร็จรูป และส่วนประกอบอาคารที่ผลิตจากคอนกรีตสำเร็จรูป โดยให้บริการด้านกฎหมายเกี่ยวกับการตรวจสอบสัญญาซื้อขายสำหรับการเข้าลงทุนในเครื่องจักรอัตโนมัติ มูลค่าทั้งสิ้น 246 ล้านบาท (ประมาณ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท มีโชคขนส่ง จำกัด บริษัทในเครือมีโชคกรุ๊ป มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจขนส่งมากกว่า 30 ปี โดยให้บริการด้านกฎหมายเกี่ยวกับการจดทะเบียนบริษัทโฮลดิ้ง และการปรับโครงสร้างทุนของบริษัท
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) โดยให้บริการด้านกฎหมายเกี่ยวกับการร่างสัญญาและการตรวจสอบสัญญา
  • ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท แอโร กรุ๊ป (1992) จำกัด บริษัทที่ให้บริการงานสร้างระบบและซ่อมบำรุง
    ไฮดรอลิค นิวแมติกแบบครบวงจร ออกแบบและติดตั้งเกี่ยวกับสินค้าด้าน IoTรวมไปถึงให้บริการเกี่ยวกับพลังงานทดแทน โดยให้บริการด้านกฎหมายเกี่ยวกับการตรวจสอบสัญญาจ้างดูแลและปรับปรุงระบบ Software WMS/WCS

 

รูปถ่ายของคุณถิรายุส์

Scroll to Top