คุณอธิศ กัณฐกมาลากุล
ประวัติ
คุณอธิศ กัณฐกมาลากุล
ทนายความ
คุณอธิศ เป็นทนายความของสำนักงาน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านตลาดทุนและหลักทรัพย์ การกำกับดูแลกิจการ ที่ปรึกษาคณะกรรมการ และการควบรวมกิจการในภาคธุรกิจพลังงาน องค์กร อสังหาริมทรัพย์ และการสื่อสารโทรคมนาคม ก่อนหน้านี้คุณอธิศ เคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล และที่ปรึกษากฎหมาย ที่บริษัท เอสเอชดี เทคโนโลยี จำกัด คุณอธิศจบการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และนิติศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชากฎหมายการเงินระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัย คิงส์คอลเลจลอนดอน รวมไปถึงเนติบัณฑิตไทย จากเนติบัณฑิตยสภา

ตลาดทุนและหลักทรัพย์
การควบรวมกิจการ
กฏหมายองค์กรธุรกิจ
บทความของคุณอธิศ
The article was thoughtfully crafted through the expertise, dedication, and insight of our team—reflecting the depth of knowledge that drives everything we do at MSC International Law Office.
การศึกษา
LL.B. degree from Chulalongkorn University
LL.M. degree from Chulalongkorn University
ประสบการณ์
• ให้คำปรึกษาแก่บริษัท ดอปปิโอ เทค จำกัด ซึ่งให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ อาทิ บริการจัดจ้างบุคลากรด้านการทดสอบซอฟต์แวร์ (QA Outsourcing), QA as a Service, การทดสอบประสิทธิภาพ (Performance Test), การทดสอบแบบอัตโนมัติ (Test Automation), การบริหารจัดการสภาพแวดล้อมการทดสอบ (Test Environment Management) รวมถึงบริการในด้าน DevOps เช่น การตรวจสอบระบบการทำงานจริงแบบเรียลไทม์ (Realtime Production Monitoring) และการนำระบบ CI/CD มาใช้ ในการลงทุนโดยกองทรัสต์ส่วนบุคคล ฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ 1 ผ่านการออกและจัดสรรหุ้นบุริมสิทธิที่ออกใหม่จำนวน 16,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ให้แก่กองทรัสต์ฯ มูลค่าธุรกรรมประมาณ 40 ล้านบาท (ประมาณ 1.09 ล้านเหรียญสหรัฐ)
• ให้คำปรึกษาแก่บริษัท ราชาออร์คิดโฮเทล จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม โดยเฉพาะโรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออร์คิด ซึ่งเป็นโรงแรมหรูมาตรฐานสากลที่มีชื่อเสียงที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ในการจำหน่ายหุ้นสามัญจำนวน 400,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1,000 บาท ให้แก่บริษัท ราชบุรีน้ำตาล จำกัด และบริษัท ราชบุรีเอทานอล จำกัด มูลค่าธุรกรรมประมาณ 1,200 ล้านบาท (ประมาณ 32.6 ล้านเหรียญสหรัฐ)
• ให้คำปรึกษาแก่บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินธุรกิจค้าส่งเครื่องจักรและอุปกรณ์ โดยเฉพาะในการเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ทีบีเอสพี จำกัด (มหาชน) จากบริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (“TKS”) หลังจากเข้าลงทุน สบายฯ จะถือหุ้น TBSP จำนวน 150,061,118 หุ้น หรือคิดเป็นประมาณ 73.48% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 2,005,022,000 บาท (ประมาณ 66 ล้านเหรียญสหรัฐ) และจำหน่ายหุ้นในบริษัท เวนดิ้ง พลัส จำกัด (“VDP”) จำนวน 2,583,720 หุ้น หรือ 86.12% ของหุ้นทั้งหมดของ VDP ซึ่งดำเนินธุรกิจเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ให้แก่ TBSP คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,022,522,000 บาท (ประมาณ 34 ล้านเหรียญสหรัฐ)
• ให้คำปรึกษาแก่บริษัท ทีเอ็น กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด (“TN Group”) ผู้ให้บริการโซลูชันด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะและแพลตฟอร์มประหยัดพลังงานระดับโลก รวมถึงเป็นผู้ผลิตและนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม ในการจัดตั้งกิจการร่วมค้าใหม่ภายใต้ชื่อบริษัท ทีเอ็น ปั๊มส์ โซลูชั่น จำกัด (“TN Pumps”) ร่วมกับบริษัทคู่ค้าเยอรมนี 2 ราย คือ Speck Pumpen Walter Speck GmbH & Co. KG และ FLUX-GERÄTE GMBH เพื่อเป็นผู้ผลิตและให้บริการโซลูชันด้านปั๊มน้ำและอุปกรณ์เสริมสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม อาคารสูง และกลุ่มอุตสาหกรรมหนักในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 2 ล้านบาท
• ให้คำปรึกษาแก่บริษัท เคพีเอ็น กรีน เอ็นเนอร์ยี่ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) ในการจดทะเบียนบริษัทโฮลดิ้งและปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น โดยบริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียนของประเทศไทย ซึ่งมีบริษัทในเครือคือ บริษัท เคพีเอ็น กรีน โซล่าร์ วัน จำกัด ซึ่งลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่จ่ายไฟฟ้าขนาด 1 เมกะวัตต์ ให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
• ให้คำปรึกษาแก่บริษัท ธีรมัลกุล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (TMI) ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ควบคุมระบบแสงสว่างซึ่งดำเนินธุรกิจมากว่า 30 ปี และได้รับการยอมรับในระดับสากล ในการเข้าซื้อและจำหน่ายทรัพย์สินทั้งหมด และเพิ่มทุนจดทะเบียน
• ให้คำปรึกษาแก่บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) (“CPanel”) ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) สำหรับอาคารที่พักอาศัย สำนักงาน โรงแรม คลังสินค้า และโรงงานอุตสาหกรรม ในการทำ Due Diligence และเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) ภายใต้ข้อกำหนดของสำนักงาน ก.ล.ต. และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) โดย CPanel เป็นหนึ่งในห้าบริษัทในไทยที่ใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบในกระบวนการผลิต ราคาหุ้นในวันแรกของการซื้อขายเพิ่มขึ้นจากราคา IPO ที่ 6.00 บาท เป็น 7.55 บาท (เพิ่มขึ้น 25.83%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 620.95 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์รวมประมาณ 900 ล้านบาท (ประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ)
• ให้คำปรึกษาแก่บริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล จำกัด (มหาชน) (“WINMED”) ผู้นำด้านการนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ การวิเคราะห์ การวินิจฉัย และการจัดเก็บเลือดอย่างปลอดภัย รวมถึงเทคโนโลยีเซลล์บำบัด ในการทำ Due Diligence และเสนอขายหุ้น IPO ตามกฎของ ก.ล.ต. และเข้าจดทะเบียนในตลาด mai โดยหุ้น WINMED ในวันแรกเปิดการซื้อขายที่ราคา 7.30 บาท เพิ่มขึ้น 135% จากราคา IPO ที่ 3.10 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมของธุรกรรม 876 ล้านบาท (ประมาณ 29.2 ล้านเหรียญสหรัฐ)
• ให้คำปรึกษาแก่บริษัท ทีคิวอาร์ จำกัด (มหาชน) (“TQR”) ซึ่งให้บริการรับประกันภัยต่อแบบ Treaty และ Facultative และเป็นพันธมิตรธุรกิจเชิงกลยุทธ์ของบริษัทประกันชั้นนำของไทย ในการทำ Due Diligence และ IPO รวมถึงการเข้าจดทะเบียนในตลาด mai โดย TQR เป็นนายหน้าประกันภัยต่อรายแรกใน mai โดยมีบริษัทแม่คือ TQM ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อปลายปี 2561 หุ้น TQR เปิดและปิดที่ราคาสูงสุด 15.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 215 ล้านบาท รวมมูลค่าธุรกรรม 306 ล้านบาท (ประมาณ 10.2 ล้านเหรียญสหรัฐ)
• ให้คำปรึกษาแก่บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 98 บริษัทที่ได้รับการจัดให้อยู่ในรายชื่อ Thailand Sustainability Investment (THSI) ปี 2562 โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2563 ให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทย
• ให้คำปรึกษาแก่บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (“NER”) ผู้ผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสมสำหรับโรงงานยานยนต์และผู้ค้าส่ง ในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ (1) หุ้นกู้ NER ครั้งที่ 2/2564 ชุดที่ 1 ครบกำหนดปี 2568 และ (2) หุ้นกู้ NER ครั้งที่ 2/2564 ชุดที่ 2 ครบกำหนดปี 2569 ซึ่งทั้งสองชุดสามารถไถ่ถอนก่อนกำหนดได้ ให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ (II&HNW) รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท (ประมาณ 60 ล้านเหรียญสหรัฐ)