mscinterlawbd

ตลาด IPO ของไทยเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี 2024

ตลาด IPO ของไทยเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี 2024 Read More »

หลักการ I2E

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องมีการผสมผสานเชิงกลยุทธ์ระหว่างนวัตกรรมสมัยใหม่และความเชี่ยวชาญแบบดั้งเดิมเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ หลักการ I2E ซึ่งได้แก่ ความซื่อสัตย์ ประสิทธิภาพ และประสิทธิผล เป็นกรอบการทำงานสำหรับการบรรลุความสมดุลนี้และรับมือกับความซับซ้อนของความท้าทายทางธุรกิจได้อย่างประสบความสำเร็จ การผสมผสานแนวทางแบบสมัยใหม่และแบบดั้งเดิม แนวทางแบบสมัยใหม่: แนวทางแบบสมัยใหม่มักเกี่ยวข้องกับการคิดอย่างคล่องตัวและแนวคิดที่สร้างสรรค์ ช่วยให้ธุรกิจปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น การใช้การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงและเครื่องมือดิจิทัลช่วยให้บริษัทต่างๆ เข้าใจแนวโน้มของตลาดและความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าบริษัทจะก้าวล้ำหน้าคู่แข่ง แนวทางแบบดั้งเดิม: ในขณะเดียวกัน วิธีการแบบดั้งเดิมก็มอบรากฐานที่มั่นคงของประสบการณ์และความเอาใจใส่ในรายละเอียด แนวทางปฏิบัตินี้เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนและการปฏิบัติตามขั้นตอนที่พิสูจน์แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่ามีคุณภาพและความน่าเชื่อถือในทุกแง่มุมของการดำเนินธุรกิจ (MECE) การบูรณาการแนวทางเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถทำสิ่งที่ถูกต้องได้ โดยการติดตามเทรนด์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ และทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง โดยใช้ความเอาใจใส่และวิธีการที่ได้รับการยอมรับอย่างพิถีพิถัน การผสมผสานนี้ช่วยสนับสนุนทั้งการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและความสำเร็จในระยะยาว เสาหลักของ I2E: ความซื่อสัตย์ ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ประสิทธิภาพและประสิทธิผลมีความสำคัญ แต่ความซื่อสัตย์เป็นรากฐานสำคัญของหลักการ I2E: ความซื่อสัตย์: ความซื่อสัตย์คือการรักษาความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับความท้าทาย หมายความว่าต้องตรงไปตรงมากับลูกค้า สื่อสารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอย่างชัดเจน และเสนอการประเมินที่ซื่อสัตย์ เมื่อเกิดปัญหาขึ้น การมุ่งมั่นในความซื่อสัตย์จะทำให้มั่นใจได้ว่าจะตัดสินใจถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่มีค่าใช้จ่ายสูง (ต้นทุนโอกาส) ประสิทธิภาพ: เกี่ยวข้องกับการปรับกระบวนการและใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตัวอย่างเช่น การเพิ่มประสิทธิภาพเวิร์กโฟลว์และการลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นช่วยให้ธุรกิจประหยัดเวลาและปรับปรุงผลผลิตได้ ประสิทธิผล: การมีประสิทธิผลหมายถึงการนำกลยุทธ์ที่สร้างผลลัพธ์ที่สำคัญมาใช้ การใช้เครื่องมือและวิธีการที่ถูกต้องช่วยให้มั่นใจได้ว่าการตัดสินใจจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่มีความหมายและสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ

หลักการ I2E Read More »

MSC เป็นที่ปรึกษา Doppio Tech

MSC เป็นที่ปรึกษาให้ Doppio Tech ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท ด๊อปปิโอเทค จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจประเภท ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร ให้บริการด้านการจัดทำซอฟต์แวร์สำเร็จรูป โดยให้คำปรึกษาในการเข้าลงทุนในบริษัท โดยทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุน ฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวต อิควิตี้ ทรัสต์ หนึ่ง (Finnoventure Private Equity Trust I) ด้วยวิธีการออกและจัดสรรหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 16,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 10.00 บาทโดยมีมูลค่าการเข้าลงทุนทั้งสิ้น 40 ล้านบาท (ประมาณ 1.09 ล้านเหรียญสหรัฐ)

MSC เป็นที่ปรึกษา Doppio Tech Read More »

MSC เป็นที่ปรึกษา SINO (JV)

การร่วมลงทุนของบริษัท SINO ในประเทศมาเลเซีย ให้คำปรึกษาแก่ บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งทางทะเล ทางอากาศ และการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Transport Operation) รวมถึงการให้บริการให้เช่าคลังสินค้า การให้บริการขนส่งทางบก การให้บริการด้านพิธีการศุลกากร และบริการอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการให้บริการโลจิสติกส์ โดยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศมาเลเซียชื่อ Sino Worldwide Logistics Sdn. Bhd รวมไปถึงการจัดเตรียมสัญญากิจการค้าร่วมสำหรับการลงทุนในบริษัทร่วมทุน ซึ่งบริษัทร่วมทุนมีทุนจดทะเบียนจำนวน MYR 900,000 ซึ่งประกอบด้วยหุ้นจำนวน 900,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ MYR 1.00มูลค่าธุรกรรมรวมทั้งสิ้น MYR 900,000 (ประมาณ 189,843 เหรียญสหรัฐ)

MSC เป็นที่ปรึกษา SINO (JV) Read More »

MSC เป็นที่ปรึกษา KJTS Group Berhad

MSC เป็นที่ปรึกษา KJTS Group Berhad’s ให้คำปรึกษาแก่ KJTS Group Berhad (“KJTS”) บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในฐานะผู้รับเหมางานระบบระบายอากาศแบบกลไกการปรับอากาศ ให้บริการด้านการบริหารจัดการพลังงานและทรัพยากรอาคาร ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยให้คำปรึกษาในการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เบอร์ซา มาเลเซีย (ACE Market of Bursa Malaysia) ในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เบอร์ซา มาเลเซีย วันแรกราคาสูงสุดของหุ้น KJTS อยู่ที่ 0.50ริงกิตมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.23 ริงกิตมาเลเซีย หรือ 85.19% จากราคา IPO ที่หุ้นละ 0.27 ริงกิตมาเลเซีย คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 58.86 ล้านริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 12.43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) #KJTSGroupBerhad #KJTS #IPO #ACEMarketofBursaSecuritiesMalaysia #MSCInternationalLaw #lawfirmthailand

MSC เป็นที่ปรึกษา KJTS Group Berhad Read More »

Scroll to Top